การรวบรวมข่าวกรอง ปัญหาการลักลอบล่าสัตว์ป่าในประเทศไทย

การค้าสัตว์ป่าเป็นภัยคุกคามระดับชาติ ประเทศไทยก็ประสบปัญหาการลักลอบล่าสัตว์ป่าเพื่อการค้าและการบริโภค เช่น ปัญหาการลักลอบล่าช้างเพื่อเอางา งาช้างส่วนมากจะนำมาผลิตเป็นเครื่องประดับตามความเชื่อเพื่อจำหน่ายทั้งในประเทศและนอกประเทศ จากการประชุมไซเตส ครั้งที่ 16 ณ กรุงเทพมหานคร ที่ประชุมยอมรับว่าการลักลอบค้างาช้างและซากต่าง ๆ ของช้าง เป็นปัญหาในระดับนานาชาติ  และประเทศไทยได้มีการแก้ไขโดยการตรา พ.ร.บ.งาช้าง พ.ศ. 2558 มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 22 มกราคม 2558 เพื่อควบคุมการครอบครองและค้างาช้างบ้าน และผลิตภัณฑ์ที่ทำจากงาช้างบ้าน เป็นต้น นอกจากนี้ยังมีการลักลอบล่าและค้าสัตว์ป่าหายากชนิดอื่น ที่มีความสำคัญต่อระบบนิเวศ ซึ่งในขณะเดียวกันก็มีความต้องการในตลาดมืดด้านการค้าสัตว์ป่า ทำให้มีราคาค่อนข้างสูงตามมาด้วย เช่น เสือโคร่ง ดังจะเห็นได้อยู่เสมอว่ามีการลักลอบขนย้ายซากเสือโคร่ง โดยมีการดัดแปลงยานพาหนะเพื่อให้บรรจุซากสัตว์ได้เป็นจำนวนมาก และสามารถหลบเลี่ยงการตรวจค้นจากเจ้าหน้าที่ได้ ทั้งนี้แรงผลักดันในการลักลอบล่านั้นมาจากความต้องการจากต่างประเทศ ทำให้มีค่าตอบแทนที่สูง แม้จะมีความเสี่ยงต่อการถูกจับกุมดำเนินคดีมากเพียงใดก็ตาม

การจัดการปัญหาการลักลอบล่าสัตว์ป่าด้วยงานสายข่าว

สำหรับภายในประเทศ ระดับพื้นที่โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีพื้นที่ป่าขนาดใหญ่อย่างเช่น ผืนป่าตะวันตก ซึ่งเป็นผืนป่ามรดกโลกของไทยเป็นแหล่งที่อยู่อาศัยของสัตว์ป่าชนิดสำคัญหลายชนิด เช่น เสือโคร่ง กระทิง วัวแดง กวางป่า เก้ง และเลียงผา เป็นต้น ปัญหาที่พบในพื้นที่ของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันออก เมื่อปี 2554 พบการลักลอบล่าเสือโคร่งจากการใช้ยาเบื่อใส่ในซากของสัตว์ที่เป็นเหยื่อ เช่น เก้ง แล้วผูกติดกับต้นไม้เพื่อล่อเสือโคร่งให้เข้ามากินแล้วตาย ในกระบวนการจัดการกับพรานล่าเสือโคร่งนี้สืบเนื่องจากการได้รับการแจ้งข่าวจากทีมลาดตระเวนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้งนำทีมโดยผู้ช่วยหัวหน้าเขตฯ ว่าพบพรานล่าสัตว์และเกิดการปะทะกันจนพรานบาดเจ็บแต่ยังจับกุมไม่ได้และถูกไล่ต้อนออกมาทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวรด้านตะวันออก เจ้าหน้าที่จากสองเขตฯ จึงสนธิกำลังเพื่อดักจับพราน ผลการปฏิบัติงานปรากฎว่าสามารถจับกุมพรานได้ทั้งสิ้น 2 คนโดยเป็นชาวม้ง 1 คน และเวียดนาม 1 คน พร้อมของกลางสำคัญหลายชิ้น


ทีมลาดตระเวนของเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าทุ่งใหญ่นเรศวร ด้านตะวันออก และเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง

ภาพจับกุมนายหน่าย แซ่ท้าว ชาวม้ง
พรานล่าเสือโคร่ง
ภาพจับกุมนายฮอง วานเฮียน ชาวเวียดนาม พรานล่าเสือโคร่ง 



ภาพจากกล้องถ่ายภาพในโทรศัพท์มือถือของนายหน่าย แซ่ท้าว ถ่ายขณะกำลังนั่งอยู่บนซากเสือโคร่งที่ล่าได้ และกำลังถือเศษชิ้นเนื้อสัตว์ป่า
จากภาพมีพรานจำนวน 3 คน และอุปกรณ์ยังชีพในป่าอื่น ๆ มากกว่า 30 รายการ

ภาพของกลางที่ยึดไว้ได้ ประกอบด้วยไม้กฤษณา ซากหมูป่ารมควัน ปืน .22 พร้อมเครื่องกระสุน และอุปกรณ์ทำครัว ยาปฏิชีวนะ

งานการข่าวในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางนั้น เขตรักษาพันธุ์ฯ ตั้งอยู่ในอำเภออุ้มผาง มีหมู่บ้านและศูนย์อพยพขนาดใหญ่ มีถนนเชื่อมต่อทั่วถึงกัน และสามารถสื่อสารถึงกันได้ทั่วพื้นที่ ทำให้การทำงานของเจ้าหน้าที่เพียงงานเดินลาดตระเวนในพื้นที่เพียงอย่างเดียวไม่อาจป้องกันได้อย่างละเอียดถี่ถ้วน ประกอบกับประชาชนในพื้นที่มีทั้งผู้มีจิตอนุรักษ์ และผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ทำให้ก่อให้เกิดกิจกรรมร่วมกันในเรื่องการบอกกล่าวของผู้มีจิตอนุรักษ์ในเรื่องการกระทำผิดของผู้ทำลายทรัพยากรธรรมชาติ ด้วยวิธีต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นบอกกล่าวเล่าเรื่องราวต่อ ๆ กัน การแจ้งข่าวโดยตรงกับเจ้าหน้าที่ การแจ้งข่าวกับผู้นำหมู่บ้าน และผู้นำหมู่บ้านนำข่าวไปแจ้งให้กับเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ป่าไม้ เป็นต้น

รูปแบบการแจ้งข่าวการกระทำผิดจึงเป็นลักษณะการแจ้งข่าวจากผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนามเพื่อหวังสินบนนำจับ ตัวอย่างเช่น 

กรณีที่ 1 มีผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนามเพื่อหวังผลสินบนนำจับ แจ้งว่ามีการครอบครองซึ่งซากสัตว์ป่าสงวนและสัตว์ป่าคุ้มครองโดยมิชอบด้วยกฎหมายที่ร้านค้าขายของชำ ตั้งอยู่ในตัวอำเภออุ้มผาง ทางเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าอุ้มผางร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารในท้องที่จึงได้เดินทางเข้าตรวจสอบที่ร้านดังกล่าวพบซากสัตว์ป่าหลายชนิดแขวนติดไว้กับผนังบ้านซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภายนอกร้าน พบหญิงคนหนึ่งอยู่ภายในร้าน เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวว่าเป็นพนักงานเจ้าหน้าที่เพื่อขอตรวจสอบซากสัตว์ป่าดังกล่าว

ซากสัตว์ป่าที่ตรวจพบได้แก่ ละองหรือละมั่ง 1 หัว เป็นสัตว์ป่าสงวนตามบัญชีสัตว์ป่าสงวนแนบท้ายพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 กระทิง 1 หัว กวางป่า 2 หัว เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 4 และ 16 ตามลำดับ



กรณีที่ 2 เป็นร้านซ่อมรถ พบสิ่งประดิษฐ์ลักษณะคล้ายซากสัตว์ป่าหลายชนิดแขวนติดไว้กับผนังของตัวบ้านซึ่งสามารถมองเห็นได้จากภายนอกร้าน สิ่งประดิษฐ์ที่พบน่าจะเป็นซากของสัตว์ป่าที่เป็นส่วนของเขาของสัตว์ป่าชนิดต่าง ๆ ประกอบเข้ากับไม้ซึ่งมีการแกะสลักเป็นหัวของสัตว์ป่าแต่ละชนิด ในเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ไม่สามารถจำแนกชนิดของซากสัตว์ป่าดังกล่าวได้ จึงได้ประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเบื้องต้นเพื่อเข้าตรวจสอบ 

จากการตรวจสอบสิ่งประดิษฐ์ดังกล่าวพบว่าเป็นซากของสัตว์ป่า ละองหรือละมั่งจำนวน 1 หัว และซากเขาเลียงผา จำนวน 1 หัว ซึ่งเป็นสัตว์ป่าสงวนตามบัญชีสัตว์ป่าสงวนแนบท้ายพระราชบัญญัติสงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2535 ลำดับที่ 6 และ 8 ตามลำดับ นอกจากนั้นยังพบซากเขาวัวแดง จำนวน 1 หัว ซากเขากระทิงจำนวน 7 หัว ซากเขากวางป่า จำนวน 2 หัวและซากเขาเก้ง จำนวน 7 หัว และซากนกกก จำนวน 2 หัว ซึ่งวัวแดง กระทิง กวางป่า และเก้ง เป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 จำพวกสัตว์เลี้ยงลูกด้วยนม ลำดับที่ 180, 4, 14 และ 198 ตามลำดับ และนกกกเป็นสัตว์ป่าคุ้มครองตามกฎกระทรวงกำหนดให้สัตว์ป่าบางชนิดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง พ.ศ. 2546 จำพวกนก ลำดับที่ 9

คณะพนักงานเจ้าหน้าที่ผู้ตรวจยึดได้ถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน รวบรวมเอกสารต่าง ๆ นำส่งพนักงานสอบสวนสถานีตำรวจภูธรอุ้มผาง อำเภออุ้มผาง จังหวัดตาก เพื่อหาผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีต่อไป และใช้บันทึกการตรวจยึดเป็นพยานหลักฐานในชั้นพนักงานสอบสวนและชั้นศาลได้





ภาพบันทึกตรวจยึดซากสัตว์ป่าสงวนและคุ้มครอง

กรณีที่ 3 มีผู้หวังดีไม่ประสงค์ออกนามเพื่อหวังผลสินบนนำจับ แจ้งว่าจะมีพราน (นายนที จับทอง พร้อมพวก) เข้าไปล่าสัตว์ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง และเจ้าหน้าที่ลาดตระเวนประจำหน่วยพิทักษ์ป่าองค์ทั่งร่วมกับหน่วยพิทักษ์ป่ากรึงไกร ได้ทำการติดตามผลและออกลาดตระเวนในบริเวณที่ได้รับข่าวมา ทำให้สามารถจับผู้ต้องหาได้ 4 คนพร้อมของกลางได้แก่ หัวพร้อมเขาควายป่า 1 หัว เนื้อควายป่า 51 กิโลกรัม หนังควายป่า 13 กิโลกรัม อีกทั้งได้ทำการตรวจยึดอุปกรณ์การกระทำความผิด ได้แก่ อาวุธปืนลูกซองยาว 1 กระบอก พร้อมด้วยเครื่องกระสุน 7 นัด  มีดปลายแหลม 3 เล่ม เรือไม้หางยาวพร้อมเครื่องพาดหาง 1 ลำ



กิจกรรมของสมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า
สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่า ดำเนินงานด้านการข่าวร่วมกับหน่วยงานของกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่สำคัญอื่น ๆ โดยมุ่งเน้นที่:

  • ปรับปรุงงานด้านการข่าว โดยการทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานระดับพื้นที่ที่ทางสมาคมฯ ให้การสนับสนุน
  • ช่วยประสานงานด้านข้อมูลการข่าวกับหน่วยงานระหว่างพื้นที่ให้มีความคล่องตัวและทำงานได้ประสบผลสำเร็จเร็วยิ่งขึ้น
  • สร้างฐานข้อมูลเพื่อจัดเก็บประวัติการข่าวให้มีระบบแบบแผนยิ่งขึ้น เพื่อนำไปสู่การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพ และใช้ในการวางแผนจัดการผู้กระทำผิดได้สัมฤทธิ์ผล
  • ให้การสนับสนุนบุคคลที่มีจิตอนุรักษ์ได้เข้ามาเป็นสายข่าวเพื่อช่วยสอดส่องการกระทำผิด

งานการข่าวในอนาคต
การข่าวเป็นแนวทางการทำงานที่สำคัญที่จะช่วยให้งานลาดตระเวนประสบผลสำเร็จอีกทางหนึ่ง จากผลความสำเร็จในการเข้าจับกุมผู้กระทำผิดพร้อมของกลางจากตัวอย่างข้างต้น แต่เป้าหมายของงานลาดตระเวนหวังผลที่จะป้องกันมิให้เกิดการกระทำผิดประสบความสำเร็จจนต้องเกิดการสูญเสียทรัพยากรสัตว์ป่าไปมากกว่านี้ จึงมีความหวังว่า

  • เพิ่มปริมาณงานการข่าวให้เข้มข้นขึ้นในพื้นที่เพื่อป้องกันและตัดขั้นตอนการกระทำผิดไม่ให้มีการลักลอบล่าสัตว์ได้สำเร็จ
  • ประสานความร่วมมืองานการข่าวระหว่างพื้นที่ให้เข้มข้นขึ้น และกระจายเป็นวงกว้างออกไปนอกพื้นที่ผืนป่าตะวันตกหรือไปถึงระดับประเทศได้
  • สืบสวนหาสายต้นตอของบุคคลที่เป็นสาเหตุการล่าสัตว์ป่าในระดับสูงขึ้นไป เพื่อลดการกระทำผิดให้ได้ในอนาคต